หน้าเว็บ

วันพุธที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ข้อกำหนดการเชื่อมต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้าแบบ On grid&hybrid

ข้อกำหนดการเชื่อมต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้าแบบ On grid&hybrid 

🔧 🔧 🔧 🔧 🔧 🔧 🔧 🔧 🔧 🔧 🔧 🔧 🔧 🔧


               เป็นบทความที่ว่าด้วยระเบียงการขอเชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าโดยไม่ได้ขายไฟให้การไฟฟ้า โดยจะเน้นในระเบียงของขั้นตอนการขออนุญาติการเชื่อมต่อโครงข่ายการไฟฟ้า

จากพ.ร.บ.ฉบับนี้จะสามารถตีความได้ว่า

1.   จะต้องได้รับการอนุญาติจากการไฟฟ้าก่อนจึงจะสามารถเชื่อมต่อเข้าระบบโครงข่ายได้

2.   จากพระราชบัญญัติดังกล่าว นั้นจะทำให้การไฟฟ้าต้องออกระเบียง ว่าด้วยการเชื่อมต่อระบบไฟฟ้า

ผู้ที่มีส่วนในเกี่ยวข้องในระเบียงข้างต้น


👉       ผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก(Small power producer, SPP)
👉      ผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก(Very small power producer, VSPP)
👉      ผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
👉      ผู้ประกอบกิจการไฟฟ้ารายอื่น






ในการขออนุญาติการต่อกับโครงข่ายการไฟฟ้านั้น จะมีสถานะอยู่ คือ "ผู้ขอใช้บริการ" กับ "ผู้เชื่อมต่อ"

>>   ผู้ขอใช้บริการ หมายถึง ผู้ประกอบกิจการไฟฟ้าที่ขออนุญาติในการเชื่อมต่อเข้ากับระบบโครงข่าย

>>   ผู้เชื่อมต่อ หมายถึง ผู้ประกอบกิจการไฟฟ้า ที่ได้รับการอนุญติในการเชื่อมต่อเข้าโครงข่ายไฟฟ้าแล้ว


ขั้นตอนการขออนุญาติเพื่อเชื่อมต่อระบบไฟฟ้า

ขั้นตอนการขออนุญาติการไฟฟ้าเพื่อต่อเข้าระบบโครงข่าย


ขอบเขตกำลังไฟฟ้าสูงสุดที่สามารถต่อเข้ากับระบบโครงข่ายสูงสุด

     หลักเกฌฑ์ปริมาณกำลังไฟฟ้าของผู้ขอใช้บริการที่จะจ่ายหรือรับกำลังไฟฟ้าจากระบบโครงข่ายไฟฟ้าในแต่ละระบบ ดังนี้

     1.โรงงานอุตสาหกรรม ขนาดใหญ่ที่ใช้ไฟเยอะ

👉      ระบบจำหน่าย 22 กิโลวัลต์ ไม่เกิน 8.0 เมกกะวัตต์/วงจร
👉      ระบบจำหน่าย 33 กิโลวัลต์ ไม่เกิน 10.0เมกะวัตต์/วงจร

     2.บ้านทั่วไป

         ระบบจำหน่าย 380/220 โวลต์ ที่มีผู้ขอใช้บริการเชื่อมต่อกับระบบจำหน่ายแรงต่ำ 1 เฟส สามรถจ่ายไฟหรือรับไฟได้ไม่เกิน 10 กิโลวัลต์


    3.อาคารสำนักงานขนาดใหญ่

         ระบบจำหน่าย 380/220 โวลต์ ที่มีผู้ขอใช้บริการเชื่อมต่อกับระบบจำหน่ายแรงต่ำ 3 เฟส สามารถจ่ายไฟหรือรับไฟจากระบบได้ไม่เกิน 56 กิโลวัตต์



    4.โรงงานเล็กๆ

         ระบบจำหน่าย 380/220 โวลต์ ที่มีผู้ขอใช้บริการจ่ายหรือรับกำลังไฟฟ้าจากระบบโครงข่ายไฟฟ้า มากกว่า 56 กิโลวัตต์ ให้เชื่อมต่อกับระบบจำหน่าย 22 หรือ 33 กิโลโวตต์ ตามความเหมาะสม

    5.การกำหนดปริมาณไฟฟ้า

         หากปริมาณกำลังไฟฟ้าเกินกว่าที่กำหนดใน ข้อ 1 ให้เชื่อมต่อกับระบบส่ง 69 หรือ 115 กิโลโวลต์ ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ไม่เกิน 180 เมกะวัตต์/วงจร

ความจำเป็นในการปฏิบัติตามระเบียบการนั้นมีความสำคัญ


👉      เพื่อให้มีวิธีการที่เหมาะสมในการเชื่อมต่อระหว่างผู้เชื่อมต่อกับระบบโครงข่ายไฟฟ้า โดยกำหนดพื้นฐานในการเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าไว้เพื่อเป็นหลักปฏิบัติโดยเท่าเทียบกัน
👉      เพื่อให้มีการกำหนดระเบียงพื้นฐานอย่างชัดเจน ครอบคลุมด้านเทคนิคขั้นต่ำในการออกแบบสำหรับผู้ขอใช้บริการ รวมทั้งรายละเอียดทางเทคนิคของอุปกรณ์ไฟฟ้าและมาตรฐานการติดตั้งที่จุดเชื่อมต่อ
👉      เพื่อให้การเดินเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนานกับระบบไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการเชื่อมต่อระหว่างระบบโครงข่ายไฟฟ้า มีประสิทธิภาพและความปลอดภัย
👉      เพื่อให้คุณภาพในการจ่ายไฟสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วไป อยู่ในเกฌฑ์มาตรฐานของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ภายหลังจากมีผู้เชื่อนต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้าแล้ว


      
  


  



หากไม่ได้รับอนุญาติในการเชื่อมต่อเข้าระบบโครงข่ายนั้น


           หากการไฟฟ้ายังไม่ได้รับการอนุญาติให้เชื่อมต่อระบบเข้าระบบโครงข่ายนั้น หากเกินกระแสไฟฟ้าไหลเกินพิกัดกระแสต่อเนื่อง แรงดันเกินมาตรฐานที่การไฟฟ้ากำหนดไว้นั้น การไฟฟ้าจะสามารถฟ้องร้องกับเจ้าของบ้าน อาคาร หรือโรงงานได้ แต่ผู้ติดตั้งไม่ผิด เจ้าของบ้าน อาคาร หรือโรงงาน นั้นจะผิดเต็มๆในทางกฏหมาย เพราะอนุญาติให้ผู้ติดตั้งไปติด




    
   

วันจันทร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2560

การบำรุงรักษาแบตเตอรี่

การบำรุงรักษาแบตเตอรี่

👬 👬 👬 👬 👬 👬 👬 👬


แบตเตอร์รี่



  
  
ก่อนอื่นเราควรมารู้จักกับประเภทของแบตเตอร์รี่กันก่อน
ถ่านไฟฉาย

         โดยทั่วไป แบตเตอรี่จะแบ่งเป็นสองกลุ่มใหญ่ด้วยกัน ได้แก่

1. แบตเตอรี่ที่ทำการชาร์จจนเต็มมาจากโรงงาน
         เช่นแบตเตอรี่นาฬิกา(ถ่านนาฬิกา), แบตเตอรี่ไฟฉาย(ถ่านไฟฉาย)เป็นต้น ซึ่งเมื่อใช้ไฟในแบตเตอรี่จนหมดแล้วก็หมดเลยไม่สามารถกลับนำมาใช้ใหม่ได้ เราเรียกแบตเตอรี่นี้ว่า แบตเตอรี่ปฐมภูมิ(Primary Battery)


2. แบตเตอรี่ที่ทำการชาร์จใหม่ได้
         เมื่อแบตเตอรี่มีไฟที่อ่อนลง เช่นแบตเตอรี่รถยนต์ เราเรียกแบตเตอรี่นี้ว่า แบตเตอรี่ทุติยภูมิ(Secondary Battery)

        

     
   
      ในระบบผลิตไฟฟ้าจากแผงโซล่าเซลล์นั้นจะใช้แบตเตอรี่แบบทุติยภูมิซึ่งสามารถชาร์จได้ใหม่เมื่อแบตเตอรี่มีกำลังไฟที่อ่อนลง ในระบบแบตเตอรี่จะทำงานเก็บพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้จากแผงโซล่าเซลล์เข้ามาไว้ แล้วปล่อยกำลังไฟฟ้าออกไปให้กับโหลดในเวลาที่ไม่มีแสงอาทิตย์ เช่นในช่วงเวลากลางคืนหรือเมฆครึ้มตลอดวัน

ส่วนประกอบของแบตเตอร์รี่


แบตเตอร์รี่
แบตเตอรี่เป็นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลังงานจากปฏิกิริยาทางเคมี  เป็นพลังงานไฟฟ้า  ประกอบด้วย

👉         เปลือกหม้อที่ผลิตจากวัสดุที่บอบบาง

👉        แผ่นธาตุประกอบด้วยแผ่นตะกั่วบริสุทธิ์  และแผ่นตะกั่วอ๊อกไซด์  มีแผ่นฉนวนกั้นระหว่างแผ่นธาตุ

👉        น้ำยา  หรือ  Electrolite  ซึ่งเป็นส่วนผสมของน้ำกรดกำมะถันกับน้ำกลั่น ให้ได้ความถ่วงจำเพาะตามที่ต้องการประมาณ  1,250
  

  


     
      สรุปแล้วแบตเตอรี่เป็นอุปกรณ์ที่บอบบางแต่ราคาแพง   หากไม่ได้รับการเอาใจใส่หรือบำรุงรักษาให้ถูกวิธี  ก็จะทำให้อายุการใช้งานสั้น  ไม่คุ้มค่า  เนื่องจากชำรุดเสียหายได้ง่ายจากการกระทบกระแทกของแข็ง  หรือใช้งานผิดวิธี


ข้อควรระวัง


1.       เวลาใส่ขั้วแบตเตอรี่อย่าใช้โลหะหรือของแข็งตอกอัดขั้วลงไป 

      เพราะจะทำให้ขั้วแบตเตอรี่ชำรุดและแผ่นธาตุภายในหลุดร่วง  เกิดการลัดวงจรในช่องของแบตเตอรี่  ควรใช้มือกดหมุนลไปเท่านั้น  ถ้าขั้วสายเล็กกว่าให้ใช้ไขควงถ่างรอยผ่าเสียก่อน  แล้วขันน๊อตให้แน่นพอสมควร  เสร็จแล้วใช้จาระบีทาบาง ๆ เพื่อป้องกันซัลเฟสเกาะที่ขั้วแบตเตอรี่
แบตเตอร์รี่



2.       เวลาถอดขั้วสายออกจากแบตเตอรี่ห้ามใช้ไขควงหรือของแข็งงัดออก 

      จะทำให้ฝาแบตเตอรี่ชำรุดเสียหายได้  ต้องกระทำโดยวิธีคลายสกรูออกให้หลวมเสียก่อน  แล้วใช้ไขควงกดปิดรอยแตกแยกให้ถ่างออกแล้วใช้มือหมุนออกเช่นเดียวกับข้อ 1


3.       ให้เปิดฝาตรวจดูระดับน้ำยาที่อยู่ในช่องแบตเตอรี่แต่ละช่อง

      ถ้าระดับน้ำยาลดลงให้เติมเฉพาะน้ำกลั่นเท่านั้น  และควรสูงท่วมแผ่นธาตุประมาณ  1  ซม.
แบตเตอร์รี่

4.       อย่าปล่อยแบตเตอรี่ไว้โดยไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานานเป็นอันขาด

      ต้องนำมาชาร์ตไฟอย่างน้อย  15  วันต่อครั้ง  ครั้งละไม่น้อยกว่า  30  นาที

5.       ไม่ควรชาร์ทแบตเตอรี่ด้วยกระแสไฟที่สูงเกินไป 

      จะทำให้แผ่นธาตุทำปฏิกิริรยากับน้ำยาอย่างรวดเร็ว  เกิดความร้อนสูง  ทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ลดลงกว่ากำหนด

6.       หมุนฝาปิดน้ำยาให้แน่นและรูระบายอากาศต้องไม่อุดตัน

      เพื่อระบายแก๊สขณะแผ่นธาตุทำปฏิกิริยากับน้ำยาในแบตเตอรี่  จะเกิดความร้อนและแก๊สขยายตัว  อาจทำให้แบตเตอรี่บวมหรือระเบิดได้
แบตเตอร์รี่


7.       หมั่นเช็คทำความสะอาดฝาแบตเตอรี่ 

      อย่าให้มีสิ่งสกปรก  เช่น  ฝุ่น  น้ำมัน  และความชื้น  เป็นต้น  หรือใช้น้ำอุ่นล้างถ้ามีซัลเฟสเกาะที่ขั้วสาย


8.       อย่าวางเครื่องที่เป็นโลหะบนหม้อแบตเตอรี่

      จะทำให้เกิดการลัดวงจร  ขั้วแบตเตอรี่จะชำรุดเสียหายได้

แบตเตอร์รี่

9.      การติดตั้งแบตเตอรี่ต้องติดตั้งกับแท่นยึดที่แข็งแรงและแน่น 

      ไม่สั่นสะเทือนมากในขณะปฏิบัติงานสะดวกต่อการบริการ  ไกลจากความชื้น  และอุณหภูมิไม่สูงเกินไป

10.    ในการเคลื่อนย้ายแบตเตอรี่ให้ใช้วิธียก  

      อย่าลากหรือดึง  หรือปล่อยลงกระแทกพื้นแรง ๆ เพราะอาจจะทำให้เปลือกหม้อแบตเตอรี่ทะลุได้

11.    แบตเตอรี่ใหม่หลังจากเติมน้ำยาแล้วจะเกิดกระแสไปขึ้นเอง 

      ทางด้านเทคนิคห้ามไม่ให้นำไปใช้งาน  เพราะจะทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่สั้นหรือเสื่อมสภาพเร็วผิดปกติ  จะต้องนำไปชาร์ทไฟเสียก่อนด้วยกระแสไฟอัตราไม่เกิน  23  แอมแปร์  ประมาณ  72  ชั่วโมง  แล้วจึงนำไปใช้งานก็จะทำให้ได้แบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

12.    แบตเตอรี่จะมีอายุการใช้งานและมีประสิทธิภาพดีที่สุด 

      แบตเตอรี่นั้นจะต้องได้รับการประจุหรือชาร์ทไฟเต็ม  (Full  charge)  อยู่ตลอดเวลา

แบตเตอร์รี่


13.    แบตเตอรี่ทั่วไปมีอายุการใช้งานระหว่าง  6  เดือน  ถึง  2  ปี


      ซึ่งขึ้นอยู่กับการใช้และบำรุงรักษาที่ถูกวิธี  ถ้าบำรุงรักษาไม่ถูกวิธีจะมีอายุการใช้งานต่ำกว่า  6  เดือน  หรือถ้าใช้และบำรุงรักษาให้ถูกวิธีอายุการใช้งานจะได้ไม่น้อยกว่า  2  ปี  จะเห็นได้ว่าการใช้และบำรุงรักษาแบตเตอรี่ให้ถูกวิธี  อายุการใช้งานจะต่างกันหลายเท่าตัว


🙏 🙏 🙏 🙏 🙏 🙏 🙏 🙏 🙏 🙏 🙏 🙏 🙏 🙏 🙏